ทะเลไทย 18 เกาะที่ไม่ควรพลาดในประเทศไทย เหมาะกับหน้าร้อนของใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำ ไปจัดงานแต่งงาน พาคู่รักไปออกเดท หรือจะไปพักผ่อนแบบสบายใจก็ได้ เราได้ยกท้องทะเลไทยที่หน้าเที่ยวมาให้ได้ชมกัน เริ่มต้องกันที่…
1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
ดินแดนที่อุดมไปด้วยแผ่นน้ำสมุทรสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ มีเกาะสำคัญๆทั้งปวง 11 เกาะ อาทิเช่น เกาะหูยง (เกาะหนึ่ง),เกาะปายัง (เกาะสอง), เกาะปาหยัน (เกาะสาม), เกาะเมียง (เกาะสี่), เกาะห้า, เกาะหก, เกาะปายู (เกาะเจ็ด), เกาะสิมิลัน (เกาะแปด), เกาะบางู (เกาะเก้า), เกาะตาชัย และก็เกาะบอน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีริมหาดที่งดงาม พร้อมด้วยแนวปะการังที่สมบูรณ์บริบูรณ์ นักเดินทางจะได้ประสบพบเห็นสัตว์ทะเลที่นานัปการ นอกเหนือจากนั้นหมู่เกาะสิมิลันยังมีเส้นทางเรียนรู้ธรรมชาติแล้วก็จุดสำหรับชมวิวที่สวยตามเกาะต่างๆอีกด้วย ดังนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะเปิดให้นักเดินทางเข้าท่องเที่ยวดูเมื่อวันที่ 16 เดือนตุลาคม – 15 เดือนพฤษภาคมของทุกปี
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
สรวงสวรรค์แห่งการดำน้ำที่ใครๆต่างก็ปรารถนามาสัมผัสสักหนึ่งครั้ง เกาะต่างๆเต็มไปด้วยแนวปะการังหลายสีสัน เป็นสถานที่ดำน้ำลึกแล้วก็น้ำตื้นที่ได้รับความนิยมของคนทั่วทั้งโลก ผืนน้ำทะเลใสสะอาด และชายหาดยังขาวเนียนนุ่ม ดูเด่นกลางทะเลอันดามัน บอกเลยว่าพลาดมิได้ ดังนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะเปิดให้นักเดินทางเข้าท่องเที่ยวดูเมื่อวันที่ 16 เดือนตุลาคม – 15 เดือนพฤษภาคมของทุกปี
3. หมู่เกาะพีพี
ภาพของเวิ้งอ่าวคู่ อันเป็นเครื่องหมายของเกาะพีพี ได้เย้ายวนใจให้นักเดินทางทั้งโลกมาเยี่ยมทะเลไทยอย่างใหญ่โตชายหาดขาวของอีกทั้งอ่าวไทรและก็อ่าวโละดาลัม และน้ำทะเลใส สร้างความซาบซึ้งให้กับนักเดินทางตลอดมาทั้งอ่าวมาหยาอันโด่งดัง ซึ่งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของเทือกเขาหินปูน จะมีผลให้คุณจำเกาะพีพีไม่มีทางลืม
4. เกาะหลีเป๊ะ
สัมผัสริมทะเลขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส พร้อมด้วยแนวปะการังที่สมบูรณ์บริบูรณ์ แล้วก็ยังมากมายไปด้วยปลาแล้วก็สัตว์สมุทรอีกหลายประเภทของเกาะหลีเป๊ะ ศึกษาวิถีชีวิตชาวอูรักลาโว้ย และก็ร่วมบันเทิงใจกับสีสันบนเกาะเล็กเกาะน้อยๆกึ่งกลางสมุทรอันดามันที่คุณจะไม่มีทางลืม
5. เกาะตะรุเตา
เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล ดินแดนของนักโทษการเมืองในสมัยก่อน ที่กล่าวขวัญกันว่าเป็นแดนนรกกลางทะเลอันดามันแต่ทว่าตอนนี้กลายเป็นสรวงสวรรค์ของผู้รักการเดินทางไปเสียแล้ว เหตุเพราะมีทัศนียภาพที่สวย ผืนน้ำใสสีมรกตทรัพยากรใต้ทะเลก็ยังคงสมบูรณ์ ทั้งยังมีประติมากรรมธรรมชาติที่ “เกาะไข่” รวมทั้งหาดทรายหินบน “เกาะหินงาม“หรือ “เกาะอาดัง เกาะราวี” ที่มีชายหาดสีขาวนุ่มเนียนละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงอีกหลายเกาะ หลายอ่าวที่แสนสวยงาม
6. เกาะกระดาน
เพลิดเพลินใจไปกับชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลใสแจ๋ว แล้วก็แนวปะการังที่งดงาม ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบเงียบเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย และก็ห้ามพลาดการร่วมงานแต่งงานใต้มหาสมุทร อันเป็นกิจกรรมที่มีชื่อเสียงไปทั้งโลก เกาะกระดาน จังหวัดตรัง ก็เลยเป็นสถานที่เที่ยวในทะเลจังหวัดตรังที่คุณจะต้องไม่พลาด
7. เกาะรอก
เกาะรอก ผู้ครอบครองสมญานามราชินีแห่งอันดามัน ด้วยธรรมชาติอีกทั้งป่าเขาบนเกาะแล้วก็ธรรมชาติใต้ทะเลยังคงมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีหาดขาวสะอาดสะดุดตา น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส สามารถเห็นใต้สมุทรได้อย่างแจ่มแจ้งทั้งยังมีแนวปะการังหลายสีสัน ตรงนี้ก็เลยกลายเป็นจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมสำหรับคนรักการดำน้ำ
8. ถ้ำมรกต
ถ้ำมรกต หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถ้ำน้ำ ตั้งอยู่รอบๆเกาะมุก มีความยาวทั้งสิ้น 80 เมตร ตรงนี้นับว่าเป็นถ้ำน้ำทะเลที่มีความสวยหรูเป็นอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำซึ่งเป็นโพรงเล็กๆจะเข้า-ออกได้เฉพาะตอนน้ำลงเพียงแค่นั้น ปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆการเข้า–ออกจะจำเป็นต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำอันมืดสนิทผ่านทางคดโค้ง ระยะทางจากปากถ้ำเข้าไปราว 80 เมตร ตั้งแถวเรียงหนึ่งตามคนนำทาง จับคนด้านหน้าไว้ให้มั่น มิเช่นนั้นบางทีอาจหลงทางได้ เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหายทรายขาวสะอาด น้ำใสน่าเล่น ล้อมด้วยหน้าผาสูงชัน ที่มีท้องฟ้าเป็นหลังคาและก็ฝาผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้
9. เกาะปันหยี
เกาะปันหยี ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นหมู่บ้านของคนมุสลิมกลางน้ำ ซึ่งมีมายาวนานมากกว่า 200 ปี ชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตแบบชาวเลแท้ๆด้านในเกาะมีบ้านเมืองของชาวบ้าน ที่ผลิตมาจากสิ่งของธรรมชาติ มีมัสยิด แล้วก็สนามฟุตบอลขนาดเล็กของเด็กๆในหมู่บ้าน เว้นเสียแต่นักเดินทางจะได้ชื่นชอบวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแล้ว ยังจะได้ลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ ของกินท้องถิ่น พร้อมด้วยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดของชาวบ้านอีกด้วย
10. เกาะพยาม
เกาะที่มีขนาดใหญ่ถัดลงมาจากเกาะช้าง (จังหวัดระนอง) ใจกลางของพื้นที่เกาะเป็นป่าไม้และสัตว์ป่านานาจำพวกอาทิเช่น นก ลิง และก็หมูป่า ตรงนี้ยังมีที่พักเอาไว้บริการนักเดินทางทั้งยังแบบวิลล่ากึ่งกลางน้ำ ทิวทัศน์งาม จนได้รับการตั้งชื่อว่าเป็นมัลดีฟส์ประเทศไทย เกาะพยามมีหาดใหญ่ๆอยู่ 5 หาดทราย มีป่า ต้นไม้ใหญ่ หาดทรายชายเลนสวนยาง รวมทั้งเป็นแหล่งมองนกเงือก กล่าวได้ว่าเกาะพยามยังเป็นสถานที่เที่ยวที่มีธรรมชาติออกจะสมบูรณ์บริบูรณ์แห่งหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ
11. เกาะนางยวน
เกาะเล็กๆที่สงบเงียบ ตั้งอยู่ข้างเกาะเต่า มีเกาะเล็กเกาะน้อย3เกาะ เชื่อมต่อด้วยแนวสันทรายสีขาวสะอาดตา โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสอย่างงดงาม เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วทั้งโลกรู้จักเกาะนางยวน ซึ่งเป็นเพียงแค่เกาะเล็กเกาะน้อยๆกลางอ่าวไทยที่สงบเงียบ มีแนวปะการังสวยสดงดงาม เป็นสรวงสวรรค์ของนักประดาน้ำที่จำต้องมาเยี่ยมกันสักหนึ่งครั้ง
12. เกาะเต่า
ห่างจากเกาะนางยวนไปราว 480 เมตร ก็จะเป็นที่ตั้งของเกาะเต่า ตรงนี้มีธรรมชาติของทะเลที่งดงามไม่แพ้เกาะนางยวน อีกทั้งน้ำทะเลสีฟ้าใส ชายหาดขาวรวมทั้งสงบเงียบ มีรีสอร์ทและก็โรงแรมหรูหรา สามารถหลบมาพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี
13. เกาะสมุย
เกาะกลางทะเลอ่าวไทย ที่มิได้มีเพียงแต่ชายทะเลขาวสะอาด และน้ำทะเลใสงามเพียงแค่นั้น แต่ว่าตรงนี้ยังเป็นสถานที่ที่ความสนุกเต็มแบบ มีกิจกรรมมากไม่น้อยเลยทีเดียวที่จัดขึ้นเพื่อสร้างสีสันให้เกาะสมุย พร้อมด้วยยังมีเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกพร้อม และยังเดินทางได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยเครื่องบิน เพราะว่ามีท่าอากาศยานสไตล์บูติกที่มีความงามติดอันดับโลกรองรับอยู่บนเกาะที่นี้อีกด้วย
14. เกาะช้าง
เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย สมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติอีกทั้งป่าเขาและทะเลที่งดงามทั้งยังมีอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกพร้อม เป็นสถานที่ดูดวงตะวันตกทะเลที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ถ้าเกิดคนไหนได้มาดินเนอร์ริมหาดที่เกาะแห่งนี้…บอกเลยว่าจะฟินมาก !
15. เกาะเสม็ด
ที่เที่ยวทางทะเลสุดโรแมนติกที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร แค่เพียงเอื้อม ซึ่งมากับริมน้ำยาวสวยสดงดงาม มีน้ำทะเลใสโอบล้อม ยิ่งไปกว่านี้ตรงนี้ยังเป็นดินแดนที่ความรื่นเริงใจ มีผับบาร์ ห้องอาหารริมหาดเยอะมาก และก็ยังมีการจัดโชว์การแสดงดนตรีริมชายทะเลอยู่เสมอๆอีกด้วย
16. เกาะล้าน
เกาะล้าน ดินแดนสรวงสวรรค์แห่งทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร มากมายๆไม่มีรถยนต์ก็สามารถไปได้อย่างง่ายดายรายจ่ายไม่สูงมากสักเท่าไรนัก ที่สำคัญน้ำทะเลใส หาดขาวมากๆแถมบนเกาะล้านยังมีบ้านพักนานัปการสไตล์ ราคาถูกใจ ให้คัดเลือกตามที่ใจต้องการอีกมากมาย
17. เกาะกูด
ถ้าหากถามหาทะเลไทยที่สวยสดงดงาม เชื่อได้เลยว่าควรมีชื่อของ “เกาะกูด” อยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เกาะกูดมีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด บริเวณรอบๆโอบล้อมไปด้วยแนวปะการังที่งดงามและก็ทะเลสีฟ้าครามใส มีชายหาดขาว สะอาด เนียนนุ่ม บนเกาะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกจำนวนมาก
18. เกาะหมาก
เกาะหมาก ทะเลไทย ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างและก็เกาะกูด ตรงนี้มีธรรมชาติของอีกทั้งบนเกาะแล้วก็ในทะเลที่สวยอุดมสมบูรณ์น้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าอมเขียวใส สามารถเห็นแนวปะการังใต้ทะเลได้จากบนเรืออย่างงดงาม ทั้งบนเกาะยังเต็มไปด้วยสวนมะพร้าวอันร่มรื่น มีอ่าวรวมทั้งชายหาดงดงามหลายที่ ทำให้นักเดินทางได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างมาก ชาวบ้านบนเกาะยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนกับที่เกาะกูด ที่นี่จึงสงบเงียบ เหมาะกับผู้ที่ปรารถนาหาที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริง